ตอบ 10 ปัญหาโรคผิวหนัง ที่ทุกคนสงสัย

ปัญหาเรื่องผิวหนัง เป็นปัญหาอันดับ 1 ที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงพบเจออยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ ตั้งแต่เรื่องการอาบน้ำ เช็ดหู ไปจนถึงปัญหาอาการคัน ขี้เรื้อน และโรคผิวหนังอื่นๆ อีกสารพัด วันนี้คุณหมอจากคลินิกผิวหนัง โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ มาไขข้อข้องใจตอบ 10 ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนังที่มีเจ้าของน้องหมาน้องแมวถามกันมาบ่อยที่สุด เนื่องในโอกาสครบรอบ 84 ปี คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สมาร์ทฮาร์ท โซเอทิส และ application สำหรับสัตว์เลี้ยง MUMU Petguide ในโครงการ Smart Vet Smart Society เพื่อส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงให้ดีขึ้น และจบทุกปัญหากวนใจเรื่องโรคผิวหนังของสัตว์เลี้ยงแสนรัก

คลินิกผิวหนัง 

    1. สาเหตุของอาการคัน ในสัตว์เลี้ยงเกิดจากอะไร
      ตอบ :  อาการคันผิวหนังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ปัจจัยเบื้องต้น เช่น การมีเห็บหมัด สุขลักษณะของการเลี้ยงดู วิธีการอาบน้ำ หรือการเลือกแชมพู ซึ่งหากมีการป้องกันและดูแลอย่างเป็นประจำแล้วสุนัขยังมีอาการคัน อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น โรคติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา โรคภูมิแพ้ ซึ่งควรพามาพบสัตวแพทย์เพื่อหาสาเหตุของโรคต่อไป
    2. สัตว์เลี้ยงที่เป็นขี้เรื้อน สามารถติดต่อสู่คนหรือไม่
      ตอบ : โรคขี้เรื้อนในสัตว์เลี้ยง มี 2 ประเภท ซึ่งเกิดจากปรสิตที่แตกต่างกัน
      ขี้เรื้อนแห้ง อาการคือ สุนัขจะคันมาก มักเกิดในตำแหน่งใบหู และข้อศอก ซึ่งสามารถติดคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆได้
      ขี้เรื้อนเปียก ส่วนมากจะเกิดในสุนัขเด็ก หรือสุนัขอายุมากที่เป็นโรคที่ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำซึ่งไม่ติดต่อสู่คนและสัตว์เลี้ยง
    3. ควรอาบน้ำสุนัขสัปดาห์ละกี่ครั้ง
      ตอบ : ในสุนัขที่มีสภาพผิวหนังและขนปกติแนะนำให้อาบน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และเป่าขนให้แห้งสนิท การอาบน้ำที่บ่อยเกินไปอาจไปชะล้างความชุ่มชื้นที่ผิวหนังทำให้เกิดผิวแห้ง และเป็นโรคผิวหนังตามมาได้ หากสุนัขเป็นโรคผิวหนัง เช่น การติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ควรใช้แชมพูยาตามที่สัตวแพทย์แนะนำ ซึ่งอาจจะต้องอาบน้ำบ่อยกว่าสุนัขทั่วไป
    4. เหตุใดสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคภูมิแพ้ถึงรักษาไม่หายขาด
      ตอบ : สัตว์เลี้ยงที่มีอาการคัน ผิวหนังแดง จากโรคภูมิแพ้อยู่เป็นประจำ เนื่องจากสัตว์เลี้ยงยังได้รับสิ่งที่กระตุ้นการแพ้ (Allergen) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยคือ อาหาร และสิ่งแวดล้อม เช่น ไรฝุ่น หญ้า เกสรดอกกไม้ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ยากที่จะหลีกเลี่ยงได้100% จึงทำให้เกิดอาการต่อเนื่อง หรือเป็นๆหายๆ ควรได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์
    5. อาหารมีผลกับผิวหนังสุนัขหรือไม่
      ตอบ : มีผล เนื่องจากผิวหนังและเส้นขนของสุนัขก็ต้องการวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ เป็นองค์ประกอบทำให้ขนและผิวหนังเงางาม การเลี้ยงสุนัขด้วยอาหารที่ไม่มีคุณภาพ หรือขาดความสมดุลขององค์ประกอบ สามารถทำให้ผิวหนังแห้ง ขาดความขุ่มชื้น ขนร่วง มีสะเก็ดตามตัว เป็นต้น  ในอีกกรณีคือ สัตว์ที่เป็นโรคภูมิแพ้อาหาร โรคนี้จะทำให้เกิดอาการคัน ผิวหนังแดง ส่วนมากมักจะแพ้โปรตีนที่มาจากสัตว์ การแก้ไขคือเปลี่ยนเป็นอาหารสำหรับโรคภูมิแพ้
    6. จำเป็นต้องทำความสะอาดหูสัตว์เลี้ยงหรือไม่
      ตอบ : ควรมีการล้างทำความสะอาดหูสัตว์เลี้ยง สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เช่นเดียวกับการอาบน้ำ เนื่องจากในช่องหู มีการผลิตขี้หู ซึ่งหากไม่เคยล้างทำความสะอาด อาจทำให้เกิดสภาวะที่ง่ายต่อการติดเชื้อ เป็นโรคหูอักเสบตามมา ความถี่ในการทำความสะอาดหูแตกต่างกัน สายพันธุ์ที่ขนยาวและหูตก อาจต้องทำความสะอาดบ่อยกว่าพันธุ์ที่ขนสั้นและหูตั้ง
    7. หากสุนัขหรือแมวที่เลี้ยงอยู่เป็นเชื้อรา ต้องดูแลรักษาอย่างไร สามารถติดคนได้หรือไม่
      ตอบ : การรักษาเชื้อราควรจะรักษาในหลายๆวิธีประกอบกัน เช่น การใช้แชมพูอาบน้ำที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อรา การใช้ยาทาภายนอก และการรับประทานยากิน  ซึ่งเชื้อราสามารถติดสู่สัตว์เลี้ยงตัวอื่น และติดคนได้ดังนั้นจึงควรแยกตัวที่เป็นเชื้อราออกจากตัวอื่นๆ อีกทั้งเจ้าของสัตว์เลี้ยงควรเลี้ยงทำความสะอาดบริเวณที่สัมผัสกับสัตว์ให้บ่อยครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อราจากสัตว์เลี้ยง
    8. การทาขมิ้นชัน สามารถรักษาโรคผิวหนังได้จริงหรือไม่ 
      ตอบ : คุณสมบัติของขมิ้นช่วยบรรเทาอาการคัน และต้านเชื้อแบคทีเรียได้บ้าง แต่การนำมาใช้ยังต้องผ่านกระบวนการศึกษาวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้ทราบถึงขนาดความเข้มข้น และความถี่ที่สามารถออกฤทธิ์ดังกล่าวได้ อีกทั้งไม่มีฤทธิ์ในการรักษาไรขี้เรื้อน ซึ่งหากใช้ขมิ้นชันแล้วอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พามาตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยสัตวแพทย์
    9. สุนัขที่เลียอุ้งเท้าบ่อยๆ เกิดจากสาเหตุใด
      ตอบ : การเลียอุ้งเท้าในสุนัข อาจเป็นหนึ่งในอาการคัน ที่เจ้าของสามารถสังเกตพบได้ ซึ่งต้องรักษาหรือไม่ ขึ้นกับความรุนแรง หากเลียเท้าบ้าง นานๆครั้งผิวหนังบริเวณอื่นยังดูปกติ อาจเป็นพฤติกรรมของสุนัข แต่หากเลียตลอดเวลา ผิวหนังแดงอักเสบมาก ควรพบสัตวแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา
    10. สุนัขที่เป็นโรคผิวหนัง ต้องโกนขนหรือไม่
      ตอบ : แนะนำให้โกนขน เนื่องจากจะได้เห็นรอยโรคที่ผิวหนังชัดเจน ทายาได้ตรงตำแหน่งที่เป็นโรคลดความอับชื้นของผิวหนัง ส่งผลให้การรักษาหายเร็วขึ้น แต่ในกรณีของการติดเชื้อรา การโกนขนอาจทำให้สปอร์เชื้อราแพร่กระจายได้ ดังนั้นควรเก็บกวาดอย่างรวดเร็วและมิดชิด